; ภาวะกลืนลำบาก (Dysphasia) -โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ McCormick Hospital ChiangMai

ภาวะกลืนลำบาก (Dysphasia)



       ภาวะกลืนลำบาก มักจะเกิดในผู้ป่วยประเภทต่าง ๆ เช่น ผู้ป่วยที่มีความบกพร่องของระบบประสาท เช่น โรคอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออย่างเรื้อรัง (myasthenia gravis) เนื้องอกที่ก้านสมอง (brainstem tumor) ผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุของเส้นเลือดในสมอง เช่น เส้นเลือดในสมองอุดตัน (embolism) เส้นเลือดในสมองแตก (cerebaral hemorrhage) head lnjury ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด (mechanical deflcits) เช่น การผ่าตัดเอากล่องเสียงออก การใส่ท่อหายใจนาน ๆ ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็งกล่องเสียง (CA laynx) มะเร็งของหลอดอาหาร เป็นต้น

        จากประเภทต่าง ๆ ของผู้ป่วยดังกล่าวจะทำให้ผู้ป่วยมีภาวะกลืนลำบากต้องรับอาหารทางสายยาง ซึ่งเป็นภาระของญาติในการจัดหาและเตรียมอาหารพิเศษ ผู้ป่วยเองก็ขาดโอกาสในการรับรสอร่อยของอาหาร หากผู้ป่วยได้รับคำแนะนำในการฟื้นฟูสมมรรถภาพด้านการกลืน ปัญหาที่จะเกิดกับผู้ป่วยและครอบครัวก็จะลดลง

ผลเสียจากการมีภาวะกลืนลำบาก

        1. ขาดอาหาร (Malntrltion)
        2. สำลักอาหาร (Aspiration)
        3. หายใจขัด (Choking) ไอ (Coughing) หายใจไม่ออก (Gaging)
        4. ปอดบวมจากการสำลักอาหาร และน้ำเข้าปอด (Aspirated pneumonia)
        5. ต้องให้อาหารทางสายยาง (N-G tube) ซึ่งจะทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินอาหาร (lrrutatuib of mucus    membrane) และขาดความสุขในการรับประทานอาหาร

บทบาทนักกิจกรรมบำบัดในผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก

        1. ประเมินความสามารถในด้านการกลืนของผู้ป่วย
        2. ให้การรักษาทางด้านกิจกรรมบำบัดเกี่ยวกับการกลืน
        3. ให้คำแนะนำอุปกรณ์ช่วยในการรับประทานอาหารหรือเลือกอาหารในการฝึกแต่ละระดัับ
        4. ฝึกให้ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารเองได้โดยไม่เป็นภาระกับผู้อื่น

ขั้นตอนในการกลืนอาหาร

        1. จัดท่าผู้ป่วยในท่านั่ง  เข่างอ 90 องศา เท้าราบพื้น หลังตรงศรีษะอยู่กึ่งกลางกับเล็กน้อย
        2. กระตุ้นกล้ามเนื้อควบคุมริมฝีปากและลิ้น
           2.1 Quick stretch ยึดกล้ามเนื้อปากโดยใช้นิ้วหัวแม่มือวางที่มุมปากกดแรงลงแล้วปัดลงถ้าเป็นริมฝีปากล่าง ริมฝีปากบนปัดขึ้น
           2.2  การบริหารกล้ามเนื้อปาก เช่น ทำท่ายิ้ม...ทำปากจู๋..เคลื่อนไหวริมฝีปาก  ไปซ้าย - ขวาฝึกออกเสียง อา-อี-อู  เม้มปาก..อ้าปาก..ปิดปาก สลับกัน


           2.3 การบริหารกล้ามเนื้อลิ้น

              2.3.1 ใช้ลิ้นแตะมุมปากทั้งสองข้างสลับกัน
              2.3.2 ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง สลับกัน
              2.3.3 ใช้ไม้กดลิ้นดันด้านข้างของลิ้นผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยดันต้านกับไม้กดลิ้นทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
              2.3.4 ให้ผู้ป่วยแลบลิ้นออกมาด้านหน้า
              2.3.5 ฝึกออกเสียง ลา ๆๆๆ ทา ๆๆ

        3. ตักอาหารในปริมาณเล็กน้อย (1/3 - 1/2่ ช้อนชา)
        4. ให้ผู้ป่วยก้มศรีษะก่อนกลืนอาหาร
           4.1 ครั้งที่ 1 กลืนอาหารที่อยู่ในปากลงไป
           4.2 ครั้งที่ 2 กลืนซ้ำอีก 1 ครั้ง
           4.3 ตรวจดูว่ามีอาหารตกค้างอยู่ในปากหรือไม่ ก่อนป้อนอาหารคำต่อไป

            ** หมายเหตุ ถ้ามีอาการสำลักหรือไอเกิดขึ้นขณะกลืนอาหาร ให้ผู้ป่วยก้มหน้าลงทันที

ลำดับขั้นการเลือกอาหารในการฝึกกลืน

        อาหารผู้ป่วยที่ภาวะกลืนลำบาก แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้

        1. Thick Puree - No liqlds อาหารในระดับนี้ยกตัวอย่าง เช่น วุ้น เยลลี่ สังขยา
        2. Thick and thin puree-thick liqulds เริ่มเมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารระดับ 1 ได้ดี เช่น โจ๊กข้น ๆ  โยเกิร์ต
        3. Mechanical soft-thick liquids เช่น ข้าวต้ม เนื้อปลา
        4. Mechanical soft dlet - liquids as tolerated เป็นอาหารธรรมดาที่เคี้้ยวง่าย เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มเครื่อง